ตอนที่ 3...พ่อลูกเขย

ตอนที่ 3...พ่อลูกเขย.

         ฝ่ายเจ้าหนุ่มธนญชัย เมื่อได้เรือขายผ้ามาด้วยการเล่นกลกับ พ่อค้าผ้าแล้ว ก็แจวล่องตามลำคลอง ผ่านหมู่บ้านที่อยู่สองฟากคลอง พลางร้องขายผ้าเรื่อยมา " ผ้ามาแล้ว แม่เอ้ย ! ผ้าดอก ผ้าลาย ชอบอย่างไหนมีทั้งนั้นจ้า "
       สักครู่ เขาก็ผ่านมาถึงท่าน้ำบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งแม่กับลูกสาว กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ม้ายาวริมท่าน้ำ ธนญชัยชะลอเรือ พลางร้องขาย " ผ้ามาแล้ว แม่เอ้ย ผ้าสวย ๆ ใหม่ ๆ จ้า "

       แม่กับลูกสาวได้ยินเสียงหวาน ๆนุ่มหูเช่นนั้น ก็หันมามอง "ผ้า อะไรจ๊ะ พ่อค้า ? " แม่ร้องถามขึ้นก่อน
       ธนญชัยยิ้ม พลางตอบว่า " ผ้าดอก ผ้าลายสวย ๆจ้า ใส่แม่ สวยลูก ไส่ลูกสวยแม่จ้า "
       " อะไรกัน ใส่แม่สวยลูก ใส่ลูกสวยแม่ " ยายแม่ย้อนถามพร้อม กับหัวเราะ " หมายความว่ายังไงจ๊ะพ่อหนุ่ม ? "
       ธนญชัยยิ้มแล้วตอบว่า " ก็หมายความว่า ถ้าแม่ใส่ใครเห็นก็ ต้องชมว่าลูกช่างเข้าใจซื้อหามาให้ และถ้าลูกใส่ใครเห็นก็จะชมว่าแม่ช่างเลือกเก่ง "
       แม่กับลูกสาวหัวเราะขึ้นพร้อมกัน " แหม ! ช่างเข้าใจพูดจริง ...จอดหน่อยซี ข้าอยากชมนัก ผ้าของพ่อหนุ่มจะสวยขนาดไหน จะเป็นอย่างพูดหรือเปล่า ? "
       ธนญชัยส่งตาหวานให้ลูกสาว และจอดเรือเทียบท่า " เชิญเลยจ๊ะ เชิญชมตามสบาย ไม่ซื้อไม่หาไม่ว่ากระไร ซื้อผืนแถมสองผืนยังได้ "
       ยายแม่หัวเราะ " จริงหรือ พ่อหนุ่ม ? "

       " จริงซีจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดูถ้าไม่แถมจริงอย่างว่า ก็รีบไล่ข้าส่ง ไปเลย " 




  แม่จูงแขนลูกสาวไปยืนหัวเรือ พลางมองไปดูผ้าในเรือ " แหม ! สวย ๆ ทั้งนั้นนะจ๊ะแม่ " ลูกสาวหันมาบอกแม่ " อื้อ สวยทั้งนั้นจริง ๆ " ยายแม่พยักหน้า " เข้าไป ซีจ๊ะ เข้าไปดูในเรือ " สองแม่ลูกเดินเข้าไปในเรือ เลือกไปเลือกมาอยู่ครู่หนึ่งจึงหยิบขึ้นมาผืนหนึ่ง แล้วถามธนญชัยว่า " ผืนนี้ราคาเท่าไหร่จ๊ะพ่อค้า ?"

       " ตำลึงเดียวจ๊ะ " ธนญชัยตอบ พร้อมกับหันหน้าไปหยิบผ้า อีกชิ้นหนึ่งมาส่งให้ " แล้วแถมนี่อีกผืนจ๊ะ "
       ยายแม่ยิ้มแก้มแทบปริ "อุ้ยใจดีจังเลย ขายถูกแล้วยังจะ แถมอีก เป็นอยากได้ให้นังหนูอีกสักผืน แต่กลัวเงินไม่พอจ๊ะพ่อค้า ? "
       " ไม่เป็นไร เงินไม่พอ ข้าจะแถมให้อีก ชอบผืนไหนเลือกเอา เลยจ้า ไม่ต้องเกรงใจหรอก "

       ยายแม่ยิ้มแล้วยิ้มอีกด้วยความดีใจ พลางแกล้งย้อนถาม "แหม ! ทำไมใจดียั่งงี้นะ ? เอ้า..เลือกซีนังหนู ชอบผืนไหนบอกพ่อค้าเขานะลูกนะ " ยายแม่หันมาสะกิด ให้ลูกเลือกผ้า 
       ลูกสาวเลือกผ้าอยู่ครู่ก็หยิบผืนหนึ่งขึ้นมาทาบตัว " ผืนนี้สวยไหมแม่ ? " แม่หันมา มอง " สวย...สวยทีเดียวลูก เข้ากับผิวลูกเปี๊ยบเลย "
       ธนญชัยมองมามองที่สองแม่ลูกแล้วยิ้ม " ข้าก็ว่าสวย " เขา หนุน " เพราะคนสวยอยู่แล้วใส่ผ้าสีไหนก็สวย จริงไหมจ๊ะ ? " ลูกสาวมองหน้าธนญชัย สบตา แล้วหลบลงต่ำอย่างขวยอาย
       ธนญชัยยิ้ม แล้วหยิบผ้าขึ้นมาอีกผืนหนึ่ง " ตกลง แถมผืนนี้ อีกผืนหนึ่ง หรือหากชอบใจผืนอื่น ๆอีกก็จะแถมให้อีกจ๊ะ "

       " อุ๊ย ! พ่อคุณ พอแล้วมั้ง ? เดี๋ยวจะขาดทุนมากนะจ๊ะ "
       ธนญส่ายหน้า " ไม่เป็นไรหรอก นิดหน่อยเท่านั้นเอง ข้างใน ยังมีอีกเยอะ คนสวย ๆต้องมีเสื้อผ้าใส่มาก ๆ ซีจ๊ะ "
       ยายแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และถามต่อไปว่า " นี่พ่อคุณ พ่อน่ะชื่อ อะไรจ๊ะ ? "
       " ข้าชื่อลูกเขยจ๊ะ " ธนญชัยตอบ
       " ลูกเขย ? แหม ! ชื่อเพราะจัง นั่นซีถึงได้ใจดีแบบนี้ "

       ธนญชัยหัวเราะ พลางชายตาหวานส่งให้ลูกสาวอีกครั้ง ลูกสาว เงยหน้ามาสบตาเข้าพอดี รีบหลบลงต่ำ ยายแม่กับลูกสาวเลือกผ้าอีกครู่ ครั้นแล้ว ยายแม่จึงพูด ขึ้นว่า " พ่อลูกเขยจ๊ะ ข้าไม่ได้เอาเงินมาด้วย ขอเวลาให้ข้าขึ้นไปเอาเงินสักประเดี๋ยว " แล้วหันไป บอกลูกสาว " อีหนูคุยกับลูกเขยเขาก่อนนะ บางทีจะได้ผ้าแถมอีกไงล่ะ ? "

       ธนญชัยยิ้มอย่างเบิกบาน " เชิญตามสบายเถอะ ให้น้องสาว เลือกผ้าให้พอนะไม่ต้องเกรงใจ " 



         พอยายแม่ก้าวขึ้นไปบนบ้าน ธนญชัยเห็นดังนั้นก็ดีใจ รีบออก เรือพาลูกสาวสวยของแกไปทันที ฝ่ายยายแม่ครั้นกลับออกมาจากบ้าน เห็นเรือธนญชัยล่องไปไกล พร้อมกับลูกสาวแกอยู่ในเรือดังนั้น ก็ตกใจกวักมือเรียก อ้าปากร้องตะโกนลั่นว่า " กลับมาก่อน บัก ลูกเขย เอ็งจะพาลูกสาวข้าไปไหน กลับมาก่อน "

       แต่...แม้ว่าแกจะตะโกนก้องสักเท่าใด ธนญชัยก็ยังคงจ้ำเรือล่อง หนีไปอย่างเร็วรี่ ยายแม่เห็นเช่นนั้นถึงกับเต้นแร้งเต้นกา กระทืบเท้าอยู่ที่ท่าน้ำ หันมาทางบ้านใกล้ เรือนเคียง ยกมือป้องปากตะโกนลั่นว่า " ช่วยด้วย เร็วเข้า ! จับ...จับมันเร็ว ๆ " ชาวบ้านใกล้เรือน เคียงได้ยินเช่นนั้น ก็โผล่หน้าออกมาดู " เกิดอะไรขึ้น แม่คุณ เสียงเอ็ดเชียว ? เขาร้องถาม

       " บักลูกเขยมันพาลูกสาวข้าไป...เร็วช่วยจับมันเร็ว ! "
       " ยายนี่ ท่าจะบ้าเสียแล้ววะ! มีอย่างที่ไหน ? ลูกเขยมันพาลูก สาวไป มันเป็นเรื่องธรรมดาของผัวเมียเขา คนอื่นไม่เกี่ยว แต่ยายนี่กลับแหกปากให้ชาวบ้านช่วย จับ บ้าจริง ๆ "

         ฝ่ายธนญชัยเจ้าปัญญา เมื่อพาเรือล่องมาได้ไกลพอสมควรแล้ว ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างขบขัน " คนที่เห็นแก่ได้มากมันก็ยังงี้แหละ ลงท้ายก็ต้องตกเป็นเหยื่อของคน ฉลาดร่ำไป ฮะ ฮะ " เขาหัวเราะพลางหันมาทางหญิงสาว ซึ่งพอดีกับที่หล่อนละสายตาจากผ้าอัน สวยงาม และรู้ว่าอะไรเป็นอะไร " ว่ายังไง แม่สาวน้อย ตกใจไหมล่ะ ? " ธนญชัยแกล้งเย้า

       " แกจะพาข้าไปไหน ? " หญิงสาวย้อนถามอย่างเกรี้ยวกราด " พาข้ากลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นข้าโดดน้ำแน่ "

       พูดจบ หล่อนขยับจะโดดลงน้ำโดยไม่รอช้า เคราะห์ดีที่ธนญชัย คอยระวังอยู่ก่อน พอหล่อนขยับ เขาก็วางแจวโผเข้ากอดไว้ทันที " จะหนีไปไหน น้องสาว ? " เขา หัวเราะ " อย่าพยายามหน่อยเลยน่า ยังไงก็หนีข้าไม่พ้นหรอก "

       หญิงสาวพยายามดิ้นรนจะให้หลุดจากอ้อมแขน ของธนญชัย " ปล่อยข้านะ คนใจร้าย คนขี้โกง "
       ธนญชัยหัวเราะร่วน " ข้าไม่ใช่คนใจร้าย คนขี้โกงหรอก แต่ข้า ..."
       " จอมกะล่อน ร้อยลิ้นกะลาวน " หญิงสาวต่อด้วยเสียงเกรี้ยว กราดยิ่งกว่าเดิม
       " เบา ๆ หน่อยจ้าคนสวย " ธนญชัยยังคงหัวเราะอย่างใจเย็น " อย่าว่าข้ารุนแรงถึงเพียงนั้นเลย ข้าเป็นคนประเภท ชอบดัดสันดานคนต่างหาก ฮะ ฮะ แม่เจ้าน่ะ เห็นแก่ได้ เห็นแก่ของจนลืมตัว ลืมลูกสาว มันก็ต้องยังงี้แหละ "
       " อย่ามาว่าแม่ข้านะ " หญิงสาวตวาด " ถึงยังไง ๆ แม่ข้าก็ รักข้าเสมอ "
       " ใช่เลย เจ้าพูดถูกแล้ว แม่ต้องรักลูก ข้อนั้นไม่เถียง แต่ข้า ตำหนิอย่างเดียว ที่แม่เจ้าตาโตเห็นแก่ของกำนัลมากเกินไป จนปล่อยให้ข้าพาลูกสาวหนีมาได้ ยังงี้ ฮะ ฮะ "

       " แล้วแกจะทำยังไงกับข้าละ จะต้มจะยำงังงั้นเรอะ ? "

       ธนญชัยหัวเราะ พลางส่ายหน้า " เปล่า ข้าไม่ใจร้าย พอจะทำอะไรกับเจ้าหรอก เพียงแต่ล้อเล่นเท่านั้น เพื่อให้เจ้ากับแม่จดจำใส่ใจไว้ว่า ต่อไป อย่าตาโตเห็นแก่ได้ยังงี้เท่านั้นแหละ " ว่าพลาง เขาคลายแขนที่กอดรัดหญิงสาวออกให้เป็น อิสระ

       หญิงสาวรีบถอยกรูดเข้าไปในเรือ พลางจ้องหน้าธนญชัย อย่างฉงน
       " เจ้าไม่ต้องแปลกใจ " ธนญชัยพูดต่อไป " ข้าพูดจริง ๆ และเดี๋ยวข้าจะขึ้นฝั่งตรงนี้ "
       " แล้วข้าล่ะ ! " หญิงสาวย้อน
       " เจ้าก็กลับไปหาแม่เจ้านะสิ " ธนญชัยตอบพร้อมกับเดิน เข้ามานั่งลงข้าง ๆหล่อน " เพื่อทำขวัญเจ้า ข้าขอมอบเรือลำนี้พร้อมกับผ้าในเรือทั้งหมดให้เจ้า "

       หญิงสาวไม่ตอบ ได้แต่มองหน้าเขาอย่างแปลกใจอย่างที่สุด

       ธนญชัยเอื้อมมือมาบีบไหล่หญิงสาวเบา ๆ " จริง ๆ ข้าพูด จริง ๆ " พูดจบ เขากลับมาที่ท้ายเรือ จับพายพาเรือเข้าเทียบฝั่ง แล้วหันมาทางหญิงสาว " เราแยกกันตรงนี้นะ ช่วยบอกแม่เจ้าด้วยว่า เรือลำนี้พร้อมด้วยผ้าทั้งหมด ข้าส่งมาเป็นค่า ทำขวัญ ยังไงก็ยกโทษให้ข้าด้วยข้าไปหละ "

       โดยไม่ทันให้หญิงสาวพูดอะไรอีก ธนญชัยรีบ ก้าวขึ้นฝั่ง ผลักหัวเรือออก แล้วเดินต่อไปตามทางที่มีป่าละเมาะขึ้นอยู่เต็ม ปล่อยให้หญิงสาว มองตามด้วยความฉงนสนเท่ห์จนลับสายตา.. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น