ตอนที่ 7 "คุณเซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา" (ศรีธนญชัยรังแกพญา)

ตอนที่ 7  "คุณเซี่ยงเมี่ยงค่ำพญา" (ศรีธนญชัยรังแกพญา)


        วันหนึ่งเจ้าเมืองเดินทางไปตามบ้านน้อยเมืองใหญ่ ก็ได้ไปพบคุณศรีธนญชัย ไม่รู้จักว่าเป็นคุณศรีธนญชัย คุณศรีธนญชัยก็ทักเจ้าเมืองว่า ‘' สาธุ ท่านเจ้าเมืองจะไปไหน ‘' เจ้าเมืองตอบว่า ‘' จะไปเที่ยว ‘' คุณศรีธนญชัยก็ว่า ‘' เจ้าเมืองนี่ข้าหลอกได้แน่นอน '' ‘' เด็กน้อยอย่างเจ้านะหรือ จะมาหลอกเราได้ ‘' เจ้าเมืองตอบ ‘' จะหลอกข้าอย่างไรล่ะ ‘' ‘' ไม่ยากหรอก ถ้าจะหรอกละก็ '' ‘' ก็ไหนลองหลอกกูดูทีซิ '' ‘' โอ งั้นหรือ งั้นก็ลงมานี่ก่อนซิ เจ้าเมืองลงมาเสียก่อนแล้วข้าจะหลอก '' ทันใดนั้น เจ้าเมืองก็ลงไป คุณศรีธนญชัยก็ว่า ‘' นี่ไงล่ะ เจ้าเมืองก็ลงมาตามที่ข้าหลอก '' ตอนนี้ ก็นับได้ว่าคุณศรีธนญชัยหลอกเจ้าเมืองได้

          ต่อมาอีกหลายวัน เจ้าเมืองก็พบคุณศรีธนญชัยอีก มันก็บอกว่า ‘' ขอเชิญเจ้าเมืองเข้ามานี่อีกทีเถอะ ข้ามีอะไรจะหลอกอีก '' เจ้าจะหลอกข้าได้อย่างไรล่ะ ‘' ‘' มาเถอะน่า ขอให้เจ้าเมืองกระโดดลงไปในหนองน้ำนั้นก่อน แล้วข้าจะหลอก '' เจ้าเมืองก็รีบกระโดดลงไปในหนองน้ำ ‘' นั่นไง ดูซิเจ้าเมืองก็ตกลงไปในหนองน้ำที่ข้าหลอกจนได้ ‘' ก็เป็นอันว่าเจ้าเมืองแพ้ศรีธนญชัยอีกครั้งหนึ่ง เจ้าเมืองก็โกรธมากคิดจะฆ่าคุณศรีธนญชัยเสีย ถ้าขืนปล่อยให้อยู่ต่อไปมันก็จะหลอกเราอยู่เรื่อยไป

           ต่อมาคุณศรีธนญชัยก็ไปพบเจ้าเมืองเข้าอีก มันพูดว่า ‘' คนอย่างเจ้าเมืองนี่ถ้าไปเที่ยวบ้านข้าไม่ฟ้อนรำละก็ต้องเข็ดแน่ ๆ '' ‘' โธ่ คุณศรีธนญชัย คนอย่างกูนี่น่ะหรือจะไปฟ้อนรำทำไมที่บ้านคุณ '''' ไม่เชื่อก็ขอเชิญไปทีเถอะน่า ‘' บ้านคุณศรีธนญชัยอยู่คนละฝั่งคลอง มีไม้พาดข้ามสะพานเท่าลำแขนเท่านั้น เมื่อเจ้าเมืองเดินข้ามสะพานไม้นี้ก็เดินเอี้ยวไปเอี้ยวมา มือไม้ก็กางออกไป ไอ็ศรีธนญชัยก็ว่า '' นี่ไงล่ะเจ้าเมืองท่านฟ้อนรำหรือไม่ล่ะ ‘' ก็เป็นอันว่าเจ้าเมืองถูกคุณศรีธนญชัยหลอกเอาอีกครั้งหนึ่ง คุณศรีธนญชัยก็บอกว่า ‘' ถ้าหากเข้าไปอีกหน่อยนะจะถึงประตูบ้านข้า ถ้าหากเจ้าเมืองไม่ไหว้เข้าไปละก็ข้าว่าเข็ดแน่ ๆ เลย ‘' เจ้าเมืองก็ว่า ‘' คนอย่างกูนี่นะหรือจะไปไว้คุณ ‘' เอาเถอะน่า ลองดูก็แล้วกัน บ้านคุณศรีธนญชัยนั้นอยู่ในป่าหญ้าคา หาทางเข้าไปลำบากแทบมองไม่เห็นทาง เพราะต้นหญ้าคาขึ้นทึบไปหมด ก็ต้องใช้มือแหวกหญ้าเข้าไปเรื่อย ๆ ศรีธนญชัยเห็นดังนั้นก็ร้องว่า ‘' นี่ไงล่ะเจ้าเมืองไหว้หรือไม่ไหว้ล่ะ '' เจ้าเมืองก็ต้องแพ้ศรีธนญชัยอีกครั้งหนึ่ง ศรีธนญชัยก็พูดต่อไปอีกว่า '' หากเจ้าเมืองเข้าไปในบ้านข้าแล้วไม่ทำความเคารพเสียก่อนก็เห็นจะต้องเข็ดแน่ ๆ ‘' คุณศรีธนญชัยเอ๊ย คนอย่างกูนะหรือจะทำความเคารพบ้านคุณ ‘'

        ‘' เอาเถอะน่า '' พอไปถึงบ้านของศรีธนญชัยแล้วประตูบ้านเตี้ยมากเพราะเป็นกระท่อมเล็ก ๆ เจ้าเมืองไปถึงก็ต้องก้มหัวลอดเข้าไป ศรีธนญชัยได้ทีเลยพูดว่า ‘' นั่นไงล่ะท่านเจ้าเมืองกำลังทำความเคารพบ้านข้าแล้ว '' ในที่สุดเจ้าเมืองก็พูดขึ้นว่า ‘' ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปถ้าแผ่นดินนี้ไม่กลับข้างล่างมาเป็นข้างบนละก็ คุณศรีธนญชัยคุณอย่าได้ย่างเหยียบเข้ามาบ้านเมืองกูอีกนะ คุณจงออกจากบ้านเมืองกูไปเสีย ''

              ศรีธนญชัยก็หนีออกจากบ้านเมืองไป พอย่างเข้าเดือนเก้า เดือนสิบ ชาวบ้านเขาก็ทำไร่ไถนาดินที่ไถนามันกลับข้างล่างเป็นข้างบน ศรีธนญชัยก็กลับเข้าบ้านเข้าเมืองอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเจ้าเมืองเห็นก็พูดว่า ‘' คุณศรีธนญชัย กลับมาอีกแล้วหรือ ไหนกูบอกคุณว่าอย่างไรคุณจำไม่ได้หรือ คุณต้องตายแน่วันนี้ กูบอกคุณว่าถ้าแผ่นดินไม่กลับข้างล่างเป็นข้างบน ห้ามไม่ให้คุณกลับเข้ามาในบ้านเมืองของกูไม่ใช่หรือ ‘' ศรีธนญชัยก็ตอบว่า ‘' ขอเชิญเจ้าเมืองออกไปดูตามทุ่งนาบ้างซิ แล้วจะเห็นว่าแผ่นดินครั้งหนึ่ง เลยสั่งว่า ‘' พรุ่งนี้ให้คุณไปสานตะกร้าใบเล็กที่สุดมาให้ใบ ศรีธนญชัยก็กลับไปสานตะกร้าใบเล็กที่สุดคลุมหัวเต่าเข้าไปสู่เจ้าเมือง ‘' ไหนล่ะตะกร้าใบเล็กที่กูสั่งให้คุณสาน ‘' ศรีธนญัชยก็แก้ห่อให้ดูก็เห็นตะกร้าใบเล็กที่สุดครอบอยู่บนหัวเต่า เจ้าเมืองเห็นดังนั้นก็หาวิธีใหม่ โดยสั่งให้ศรีธนญชัยสานตะกร้าใบใหญ่ที่สุด ศรีธนญชัยก็สานตะกร้าใบใหญ่จนเข้าประตูเมืองไม่ได้ จึงเข้าไปบอกเจ้าเมืองว่า สานตะกร้าเสร็จแล้วและเอาเข้าประตูเมืองไม่ได้ ตลอดทางก็คิดหาทางแก้แค้นคุณศรีธนญชัยให้ได้เลยท้าพนันศรีธนญชัยว่า ถ้าใครถ่ายอุจจาระได้โดยไม่ถ่ายปัสสาวะ คนนั้นรอดตาย ตอนนั้นศรีธนญชัยได้ถ่ายปัสสาวะมาก่อนแล้ว จึงชนะเจ้าเมืองอีก ศรีธนญชัยจึงเอาค้อนทุบศรีษะเจ้าเมืองเสีย ในที่สุดเจ้าเมืองก็ต้องมาตายเพราะศรีธนญชัยจนได้

        ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้ : จากเนื้อเรื่อง เป็นเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินและแฝงด้วยแนวคิด เป็นบทสอนใจให้กับผู้ที่ได้รับฟัง

คติ : ‘' คนที่มีสติปัญญาย่อมเอาตัวรอดได้เสมอ ‘'

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น